9/14/2552

2 โลกสะอาด!!!


ก่อนจะไปไหน เรามาเคลียร์กันตรงนี้สักนิดนะครับ
ว่ารถไฟฟ้าเนี่ย...มันช่วยให้โลกสะอาดขึ้นจริงหรือ?

หลายคนเชื่อว่ามันแค่ย้ายมลพิษจากปลายท่อไอเสีย
ให้ไปรวมกันที่โรงไฟฟ้าแทน
มันก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะครับ
แต่มาดูการทำงานของมัน แล้วค่อยตัดสินจะดีกว่า

โรงไฟฟ้าถ่านหิน_นิวเคลียร์_น้ำมัน หรือแก็สธรรมชาติ
ล้วนแล้วแต่มีหลักการเดียวกันทั้งสิ้น
นั่นคือใช้ความร้อนมาต้มน้ำ
ซึ่งจะขยายปริมาตรเป็นพันเท่าเมื่อเดือด
ไอน้ำเดือดที่ว่านี้จะถูกใช้ในการหมุนใบพัด
ที่ต่อเข้ากับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ( Dynamo หรือ Generator )
ยิ่งเดือดในที่แคบๆ ความดันยิ่งสูง
ใบพัดมันก็ยิ่งปั่น กระแสไฟก็จะถูกผลิตออกมาได้สูง

ในสูบรถยนต์ ความร้อนก็สูงเช่นเดียวกัน
สูงกว่ามากจนน้ำมันดีเซลติดไฟได้เองเสียด้วยซ้ำไป
แต่รถยนต์อาศัยแค่ควันจากการเผาไหม้ไปผลักชิ้นส่วนต่างๆ ให้เคลื่อนที่
ความร้อนไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ในการใดๆ ทั้งสิ้น
หนำซ้ำมันยังต้องใช้ไฟฟ้า มาช่วยระบายความร้อนจากการเผาไหม้ที่ว่านี่อีกด้วย

การทำงานของเครื่องยนต์ก็เหมือนกับโรงไฟฟ้าที่เผาถ่านหินเล่นๆ
......เพียงเพื่อดูควันของมัน
เหมือนเขื่อนที่ปล่อยน้ำทิ้งโดยไม่เปิดเครื่องปั่นไฟ
......เรือที่ลอยตามน้ำก็แล่นเร็วขึ้นหน่อยนึง...แค่นี้จริงๆ
รถยนต์ชั้นดีขนาดไหนก็ทำใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่าได้ไม่เกิน 20 % ของที่เผาผลาญไป
โรงไฟฟ้าแย่ขนาดไหน ก็ยังใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าเป็นหลายๆ เท่าตัว

พลังไฟฟ้าที่สะอาดสุด มาจากแสงอาทิตย์ และลม
พลังไฟฟ้าที่ถูกสุด มาจากเขื่อน
เอากลางๆ ก็หน้าเดิมๆ นี่แหละครับ....ถ่านหิน ดีเซล แก๊ส นิวเคลียร์

ถ้าเราไม่สามารถจ่ายค่าไฟสูงกว่านี้ได้เป็นหลายๆ เท่าตัว
ให้ลืมแสงอาทิตย์ กับลมไปได้เลย
เอาแค่รถไฟฟ้าให้ผ่าน ทำใจกับค่าแบตให้ได้
3-5 หมื่นทุกสองสามปี (ระบบถูกสุด 48 v.)

บ้านธรรมดา...ให้คูณสิบ ติดแอร์....ให้คูณสามสิบ
ติดแอร์สองตัว......เป็นล้านแน่นอน
แต่ไม่ต้องจ่ายค่าไฟไปยี่สิบปี (แต่ค่าแบตทุกสามสี่ปียังมีอยู่)
คนที่ทำแล้วคุ้ม คือ คนที่ใช้ไฟตามสายธรรมดา
แล้วต่อระบบโซลาร์ขายไฟคืนให้การไฟฟ้า
ที่นี่ให้ข้อมูลได้ดีมากเลยครับ

ผมจะซื้อมาติดรถคันที่ว่า รักษ์โลกเหมือนๆ ทุกคน....อยากเห็นโลกเขียวขึ้น
แต่แค่ดูราคาหน้าก็เขียวแทนโลกแล้วครับ ใครได้ดูก็คงเหมือนกัน

2 ความคิดเห็น:

  1. แปลความหมายภาพประกอบนะครับ ลูกศรสีน้ำเงินเข้ม คือ พลังงานที่ใช้ไป แต่ไม่ได้ใช้ขับเคลื่อนตัวรถ 17% สำหรับรอบเดินเบา 2% สำหรับอุปกรณ์ความบันเทิงต่างๆ ในรถ 5.6% ใช้เพื่อเอาชนะความฝืดของเฟืองเกียร์ครับ สีฟ้า 62% คือความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง และเสียดสี_ไม่มีประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนใดๆ ทั้งสิ้น 12.6% คือพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนจริงๆ ครับ

    ตอบลบ
  2. ในอนาคตผมว่า..รถไฟฟ้าต้องพัฒนาขึ้น..มีกำลังมากขึ้น เร็วขึ้นให้กังลังต่อวัตต์มากขึ้น..ส่วนแบตเตรี่อยากให้ถูกกว่านี้ยังแพงมากเกินไปและอยากให้รับเทิร์นแบตกลับไปเพื่อรีไซเคิ้ล..ตอนนี้ยังมีข้อติอยู่แต่ต่อไปน่าจะดีกว่านี้

    ตอบลบ