โดนรวม 6v. ทนกว่า แพงกว่า หนักกว่า 12v...แล้วแต่ที่ต้องการครับ แบตก้อนดำๆ ไม่เติมน้ำกลั่น ใช้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคาไม่แพงวางตะแคงยังไงก็ได้ แต่สูงสุดแค่ไม่กี่สิบแอมป์ ใช้ดียังไงก็ไม่เกินสองปีเครื่อง Smart Charger สำหรับตัวนี้ ผมคิดว่าหายากหน่อย แต่ตัวธรรมดาแค่สองร้อย สามร้อยบาทเท่านั้น ถือว่าก็เฉลี่ยกันไป ค่า Volt แบตแห้งไม่เติมน้ำจะอ่านได้สูงกว่าแบบธรรมดา 5-10%100% ของธรรมดา = 12.7v. อันนี้จะต้อง 13กว่าๆ v. นะครับไฟ 220v.ของบ้านเราชาร์จแบตเต็มเร็วกว่า 110v.ของฝรั่ง กับญี่ปุ่นเป็นสองเท่า เครื่องชาร์จไฟ 220v. ก็ของคนไทยนี่แหละนะครับ โรงงานแบตให้ข้อมูลตรงนี้ได้ ผมก็ให้โรงงานแบตติดต่อให้ครับเครื่อง Smart Charge มีขั้นตอนการชาร์จที่ยุ่งยากมากแบ่งเป็นสามช่วงแต่เราแค่เสียบปลั๊ก-กดเปิด-กดปุ่ม Equalize อาทิตย์ละครั้ง-จบVoltmeter = บอกถึงกำลังของแบต = เกจ์น้ำมัน แบบแผงดิจิตอล เอามาติดในรถได้ หาซื้อยากมาก ผมไปได้ที่ร้าน ประกิต อยู่บ้านหม้อเซนเตอร์ ชั้น 2 ครับ ราคา 350 บาท
ขอเตือนอีกเรื่องด้วยนะครับ สำหรับการเลือกใช้ปลั๊กไฟ ที่จะต่อไปยังปลั๊กที่ผนัง โปรดเลือกใช้อันที่สายไฟใหญ่ๆ หนาๆ นะครับรถไฟฟ้าส่วนมากจะจอดห่างจากปลั๊กไฟพอสมควร พวกสายไฟสีเทาๆ เล็กๆ อ่อนๆ นี่ให้ลืมไปเลยนะครับ (มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีปัญหาครับ)ซื้อเป็นม้วนยาว 20 เมตร ราคาประมาณหนึ่งพันบาท มันก็สารพัดประโยชน์ดีนะครับ เอาสายไฟเครื่องชาร์จเป็นเกณฑ์ก็ได้ครับ สำหรับการเลือกปลั๊กต่อ
ผมเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องชาร์ทของผม คือ ผมซื้อหม้อแปลงสำเร็จรูปแบบ เทอร์รอยด์ 5 แอมป์ จากบ้านหม้อแถวข้างๆร้านณัฐพงษ์ ตัวละ 350 บาท สังเกตุดูมันมีตัว selector 1.5V-3V4.5V -6V7.5V9V-12V ให้เลือก ผมเลือก 12V ใช้ชาร์ทแบตต์รถยนต์ของผมอายุ 3 ปีที่มีระบบไฟฟ้าเยอะไปหมด เพียง 25 นาทีก็สตาร์ทเครื่องยนต์ติด แม้แต่อีซูสุดีแมค ไฟหมดหม้อก็ใช้เวลาชาร์ทใกล้เคียงกัน ถ้าเสียบชาร์ทไว้ทั้งคืนตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง หกโมงเช้า ไฟฟ้าก็เต็มแบตเลยครับ หม้อแบตแต่ละลูกผมใช้เฉลี่ย 5 ปี ครับ ข้อสำคัญให้ดูน้ำกลั่นว่าแห้งจนแผ่นตะกั่วโผล่หรือไม่ และหากยังไม่หายข้องใจก็เอา Hygrometer มาตรวจเช็คความเป็นกรดเข้มข้นหรือเจือจางดู หากเจือจางก็ซื้อกรดจากร้านแบตฯมาเติม ทิ้งสัก 10 นาทีก็มีไฟ ประมาณ 30 % ครับ
โดนรวม 6v. ทนกว่า แพงกว่า หนักกว่า 12v...แล้วแต่ที่ต้องการครับ
ตอบลบแบตก้อนดำๆ ไม่เติมน้ำกลั่น ใช้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคาไม่แพง
วางตะแคงยังไงก็ได้ แต่สูงสุดแค่ไม่กี่สิบแอมป์ ใช้ดียังไงก็ไม่เกินสองปี
เครื่อง Smart Charger สำหรับตัวนี้ ผมคิดว่าหายากหน่อย แต่ตัวธรรมดาแค่สองร้อย สามร้อยบาทเท่านั้น ถือว่าก็เฉลี่ยกันไป
ค่า Volt แบตแห้งไม่เติมน้ำจะอ่านได้สูงกว่าแบบธรรมดา 5-10%
100% ของธรรมดา = 12.7v. อันนี้จะต้อง 13กว่าๆ v. นะครับ
ไฟ 220v.ของบ้านเราชาร์จแบตเต็มเร็วกว่า 110v.ของฝรั่ง กับญี่ปุ่น
เป็นสองเท่า เครื่องชาร์จไฟ 220v. ก็ของคนไทยนี่แหละนะครับ โรงงานแบตให้ข้อมูลตรงนี้ได้ ผมก็ให้โรงงานแบตติดต่อให้ครับ
เครื่อง Smart Charge มีขั้นตอนการชาร์จที่ยุ่งยากมากแบ่งเป็นสามช่วง
แต่เราแค่เสียบปลั๊ก-กดเปิด-กดปุ่ม Equalize อาทิตย์ละครั้ง-จบ
Voltmeter = บอกถึงกำลังของแบต = เกจ์น้ำมัน แบบแผงดิจิตอล เอามาติดในรถได้ หาซื้อยากมาก ผมไปได้ที่ร้าน ประกิต อยู่บ้านหม้อเซนเตอร์ ชั้น 2 ครับ ราคา 350 บาท
ขอเตือนอีกเรื่องด้วยนะครับ สำหรับการเลือกใช้ปลั๊กไฟ ที่จะต่อไปยังปลั๊กที่ผนัง โปรดเลือกใช้อันที่สายไฟใหญ่ๆ หนาๆ นะครับ
ตอบลบรถไฟฟ้าส่วนมากจะจอดห่างจากปลั๊กไฟพอสมควร พวกสายไฟสีเทาๆ เล็กๆ อ่อนๆ นี่ให้ลืมไปเลยนะครับ (มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีปัญหาครับ)
ซื้อเป็นม้วนยาว 20 เมตร ราคาประมาณหนึ่งพันบาท มันก็สารพัดประโยชน์ดีนะครับ เอาสายไฟเครื่องชาร์จเป็นเกณฑ์ก็ได้ครับ สำหรับการเลือกปลั๊กต่อ
ผมเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องชาร์ทของผม คือ ผมซื้อหม้อแปลงสำเร็จรูปแบบ เทอร์รอยด์ 5 แอมป์ จากบ้านหม้อแถวข้างๆร้านณัฐพงษ์ ตัวละ 350 บาท สังเกตุดูมันมีตัว selector 1.5V-3V4.5V -6V7.5V9V-12V ให้เลือก ผมเลือก 12V ใช้ชาร์ทแบตต์รถยนต์ของผมอายุ 3 ปีที่มีระบบไฟฟ้าเยอะไปหมด เพียง 25 นาทีก็สตาร์ทเครื่องยนต์ติด แม้แต่อีซูสุดีแมค ไฟหมดหม้อก็ใช้เวลาชาร์ทใกล้เคียงกัน ถ้าเสียบชาร์ทไว้ทั้งคืนตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง หกโมงเช้า ไฟฟ้าก็เต็มแบตเลยครับ หม้อแบตแต่ละลูกผมใช้เฉลี่ย 5 ปี ครับ ข้อสำคัญให้ดูน้ำกลั่นว่าแห้งจนแผ่นตะกั่วโผล่หรือไม่ และหากยังไม่หายข้องใจก็เอา Hygrometer มาตรวจเช็คความเป็นกรดเข้มข้นหรือเจือจางดู หากเจือจางก็ซื้อกรดจากร้านแบตฯมาเติม ทิ้งสัก 10 นาทีก็มีไฟ ประมาณ 30 % ครับ
ตอบลบ